gaur (bos gaurus) กระทิงเขาแผงม้า

 ดูกระทิงเขาแผงม้าในปี2020


            วันนี้ผู้เขียนขอเสริมความรู้ในเรื่องราวของกระทิงหรือที่คนอีสานเรียกว่า เมย ที่อยู่ในป่าเขาแผงม้านะครับ สืบเนื่องจากมีผู้คนให้ความสนใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวชมกระทิง ชมวิวกันมากมายในช่วงวันหยุด อันนี้็ก็ขอแสดงความดีใจกับเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถ เอาใจใส่ในการรักษาทรัพยากรสัตว์ป่าของบ้านเมืองไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม เมื่อก่อนผู้เขียนเองเคยเดินป่าแค่เห็นร่องรอยสัตว์ป่าก็ตื่นเต้นไปตลอดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเลยทีเดียว

รูปร่างที่ใหญ่กำยำของกระทิงตัวผู้ เมื่อเขาเดินออกมาจากป่าสู่ที่โล่งของทุ่งหญ้าเปิดเผยตัวตนเรือนร่างที่แท้จริง บางครั้งผมแอบเห็นหนุ่มๆสาวๆนักท่องเที่ยวร้องกรี้ดกร๊าดในขณะส่องกล้องมองทางไกลบวกกับอารมย์ที่รอคอยอยากเห็นหรือบางท่านบอกว่าเป็นเรื่องของโชค เป็นบุญตาไม่น่าเชื่อว่าในประเทศไทยจะมีสัตว์ป่าให้เห็นกันขนาดนี้

ด้วยสภาพป่าที่เป็นเขาสูงสลับกับทุ่งหญ้าที่เคยเป็นป่าเสื่อมโทรมมาก่อน กล่าวคือมีชาวบ้านยึดถือพื้นที่ป่าเขาแผงม้าทำไร่ข้าวโพดและมันสำปะหลังมาก่อนมันจึงเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมให้พวกสัตว์กินพืชเข้ามาอาศัยหากิน สืบลูกสืบหลานเรื่อยมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขามีความปลอดภัยจากผู้ล่าอย่างเช่นมนุษย์นั่นเอง

ในป่าอนุรักษ์ของเมื่องไทยมีไม่กี่แห่งที่คนเดินทางเข้าป่ามาท่องเที่ยวแล้วได้เห็นสัตว์ป่ากันแบบจะจะ โดยไม่ต้องไปนั่งซุ่มดูตามหอส่องสัตว์ซึ่งกลายเป็นอดีตไปแล้ว ที่ป่าเขาแผงม้าหรือที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า เมื่อท่่านเดินผ่านด่านเก็บค่าบริการขึ้นมาจนถึงลานดูกระทิง ท่านจะได้พบกับบรรยากาศที่ชวนตื่นตากับทุ่งหญ้าและป่าเขาในมุมมอง 360 องศาของจุดชมวิว บางครั้งบางคนหลงลืมไปว่าตนเองมาดูกระทิงแต่กลับเพลิดเพลินกับวิวป่าเขาลำเนาไพรและแสงสีแดงก่อนตะวันจะลาลับฟ้า

16.00 น.เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่ทุกท่านจะได้พบเห็นกระทิงออกจากป่าเลาะเล็มหญ้าตามทุ่งสีเขียวสด เริ่มตั้งแต่มองเห็นไกลสุด พวกกระทิงก็จะค่อยเริ่มขยับมาข้างหน้าใกล้จุดชมวิวเข้ามาเรื่อยๆ ถ้าคนไม่เยอะ เสียงไม่ดังมาก กระทิงจะเข้ามาใกล้สุดจนถึงเนินฮาเร็ม จุดตรงนี้ท่านก็สามารถใช้อุกรณ์ถ่ายภาพที่มีอยู่ได้อย่างสบายมือ ขออย่างเดียวพยามอย่าส่งเสียงดังเพราะกระทิงเขาก็ยังมีสัญชาตญาณระวังไพร มีระยะห่างทั้งกลิ่น เสียงและการมองเห็น

        มาดูลักษณะของกระทิงกันครับ กระทิงมีขนยาวสีดำหรือสีดำแกมน้ำตาล ส่วนลูกเล็กที่เกิดใหม่อายุยังไม่เกินสองเดือนจะมีสีน้ำตาลแกมแดง บริเวณหน้าผากจะมีขนสีขาวอมเทาเรียกว่า "หน้าโพ" กระทิงเพศผู้ตัวใหญ่สุดมีน้ำหนักถึง 900-1,000 กิโลกรัม มีพืมหรือเหนียงใต้คอที่สั้นห้อยยานลงมายาวกว่าตัวเมีย ส่วนตัวเมียบริเวณลำคอจะมีขนยาวมากกว่าตัวผู้นำหนักประมาณ 600-700 กิโลกรัม ส่วนขาทั้ง 4 ข้างเหนือข้อเข่าลงไปจนถึงข้อเท้าจะมีขนสีขาวอมเทาทำให้มองดูเหมือนมันใส่ถุงเท้า ซึ่งหน้าโพกับถุงเท้าของสัตว์ชนิดนี้กิดจากคราบนำมันในเหงื่อทำให้เกิดเป็นลักษณะเฉพาะของสัตว์ชนิดนี้ ส่วนความสูงจากพื้นดินถึงหัวไหล่อยู่ระหว่าง 170-185 เซนติเมตร

การกระจายพันธ์ุ เริ่มจากตอนใต้ของประเทศจีน,อินเดีย,ภูฏาน,เนปาล,พม่า,ไทย,ลาว,เวียดนาม,กัมพูชาและมาเลเซีย

        พฤติกรรมชอบอาศัยรวมกันเป็นฝูง 2- 60 ตัว แต่ที่เขาแผงม้าผมเคยเห็นกระทิงฝูงใหญ่ที่สุดนับได้ 130 ตัว อาศัยหากินพื้นที่เขาสูงสลับกับทุ่งหญ้าหรือหากินร่วมกับสัตว์ชนิดอื่นเช่น ช้าง วัวแดง ส่วนตัวผู้ที่โตเต็มวัยมักจะแยกออกมาหากินโดดเดี่ยวหรือที่เราเรียกว่า"กระทิงโทน"เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ร่างการแข็งแรงเต็มที่เขาจะกลับเข้าฝูงทำการต่อสู้กับตัวผู้ที่คุมฝูงหากเอาชนะได้เขาก็จะไได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่สืบพันธุ์ต่อไป ส่่วนหน้าที่ของผู้นำฝูงเป็นกระทิงตัวเมียเต็มวัยที่มีประสบการณ์จะนำฝูงออกหากินในสภาป่าหลากหลาย เช่น ป่าเต็งรัง,ป่าเบญจพรรณ,ป่าดิบแล้งและดิบเขาหรือป่าไร่ร้าง เสื่อมโทรมที่กำลังฟื้นฟูจากการทำลาย

        กระทิงผสมพันธุ์ทั้งปีครับ ตั้งท้องนาน 270-280 วัน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว น้ำหนักแรกเกิดประมาณ 23 กิโลกรัม กระทิงสาวมีวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 2-3 ปี มีอายุขัยราว 26 ปี(ข้อมูลจากแหล่งเพาะเลี้ยง)

        สถานะตามกฎหมาย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2562 

        ครับนี่เป็นข้อมูลเบื้องต้นของกระทิงหรือเมย หากท่านเดินทางมาดูจริงๆที่ จุดสกัดเขาสูง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้าก็ลองพยายามแยกครับว่า ตัวไหนตัวผู้ ตัวไหนตัวเมีย วัยรุ่นและลูกเล็กเด็กแดง แต่ถ้าตัวที่อยู่นอกเหนือที่ผมได้บรรบายมาไม่ใช่กระทิงครับ. 

        สุดท้ายขอขอบคุณข้อมูลจาก วิจิพีเดีย,แฟ้มสัตว์โลกครับ



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

khao phaeng ma forest

กิ้งก่าบินปีกสีส้ม(Spotted flying dragon, Orange-winged flying lizard)

ได้เวลาติดปลอกคอกระทิงแล้ว(collar)